ตลาดฟิวเจอร์ติดหล่มเพราะเงินเยียวยาไม่คืบหน้า, UK อาจออกจากยุโรปโดยไม่มีสัญญาใดๆ

การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงไม่มีความคืบหน้า- เงินจากหุ้นกลุ่มวัฎจักรไหลกลับไปสู่กลุ่มหุ้นเทคฯ อีกครั้ง- โจ ไบเดนจะยังคงตั้งกำแพงภาษีกับประเทศจีนต่อไปต่อจากโดนัลด์ ทรัมป์เหตุการณ์สำคัญดัชนีหลักของสหรัฐฯ ทั้ง 4 ไม่ว่าจะเป็นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 แนสแดก และ รัสเซล 2000 ต่างพากันปรับตัวลดลงก่อนตลาดซื้อขายสหรัฐฯ เปิดทำการในวันพุธ สาเหตุของขาลงครั้งนี้เกิดมาจากมีความเป็นไปได้ว่าการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) จะเกิดขึ้นแบบไม่มีการทำสนธิสัญญาใดๆ ไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดมีรายงานว่าว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ นายโจ ไบเดนตัดสินใจจะดำเนินนโยบายกำแพงภาษีกับประเทศจีนต่อหลังจากที่เขาได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้ดอลลาร์สหรัฐยังคงวิ่งภายใต้แรงกดดันจากขาลงในขณะที่ทองคำสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ภาพรวมตลาดลงทุนทั่วโลกการที่ดัชนีหลักของสหรัฐฯ เปิดตลาดติดลบแต่มีเพียงตลาดแนสแดกเท่านั้นที่ติดลบน้อยกว่าตลาดอื่นๆ สะท้อนให้เห็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเงินของนักลงทุนในตลาดอีกครั้ง นอกจากนี้นักลงทุนยังค่อนข้างผิดหวังกับข่าวการเมืองที่สุดท้ายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีข่าวว่าจะออกมาในตัวเลข $908,000 ล้านเหรียญสหรัฐถูกคว่ำโดยผู้นำสภาฝ่ายเสียงข้างมากนายมิตต์ แมคคอนเนล เขาให้ความเห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากกว่านี้แลย้ำว่าสภาคอนเกรสจะต้องรีบทำการอนุมัติภายในวันที่ 11 ธันวาคมดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบรูปธงขาขึ้นดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบรูปธงขาขึ้น ตั้งแต่การวิ่งลงมาจากจุดสูงสุดในวันอังคาร กราฟเอสแอนด์พี 500 ก็อยู่ในแนวโน้มขาลง เมื่อไหร่ที่ราคาหลุดกรอบรูปธงลงมาได้จะเป็นสัญญาณบอกถึงการปรับตัวเป็นขาลงต่อที่ฝั่งยุโรปเองก็มีการโยกเปลี่ยนเงินทุนเช่นกัน จากเดิมที่หุ้นกลุ่มธนาคารและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เคยปรับตัวสูงขึ้น ตอนนี้เงินลงทุนกลับไหลไปสู่หุ้นที่ให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากมาตรการล็อกดาวน์ นี่คือสาเหตุว่าทำไมดัชนี Stoxx 600 ถึงปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้กราฟปอนด์เทียบดอลลาร์ปรับตัวลดลงมากที่สุดจนเกือบจะกลับลงไปยังจุดที่เคยทะยานขึ้นมา สาเหตุที่กราฟวิ่งลงเช่นนี้เป็นเพราะหัวหน้าทีมเจรจา Brexit ทางฝั่งยุโรปนายมิเชล บาร์เนอร์รายงานว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถปิดดีลการค้ากับสหราชอาณาจักรก่อนสิ้นปีนี้ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่สหราชอาณาจักรต้องออกจากสหภาพยุโรปแล้วกราฟ GBPUSD อย่างไรก็ตาม กราฟGBPUSD ยังมีแนวรับรออยู่จากกรอบราคาขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน ยังมีความเป็นไปได้ที่กราฟจะกลับขึ้นไปทดสอบกรอบราคาด้านบนอีกครั้งตลาดหุ้นฝั่งเอเชียไม่มีการซื้อขายที่หวือหวามากนัก ดัชนี KOSPI ของประเทศเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 1.6% ทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังปรับตัวขึ้นจากข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด และเงินทุนที่ไหลเข้ามาสู่ตลาดเอเชียมากขึ้นหลังจากโจ ไบเดนได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนถัดไปดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของประเทศจีนปรับตัวลดลง 0.1% เพราะนักลงทุนโยกเงินเข้าไปลงทุนกับหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินมากขึ้นเพราะมีข่าวรายงานว่ากิจกรรมภาคการผลิตของเดือนพฤศจิกายนในส่วนของโรงงานมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในรอบทศวรรษ นอกจากนี้หุ้นของบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของประเทศนาม “เซียวมี (OTC:XIACF)” ปรับตัวลดลงจากการขาดทุนมากที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัทสกุลเงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อได้ทราบว่าโจ ไบเดนจะสานต่อเกมสงครามการค้าในการตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์USD/CNY แต่ถึงอย่างนั้นสกุลเงินหยวนก็ยังแข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากรูปจะเห็นได้ว่ากราฟดอลลาร์เทียบหยวนอยู่ในกรอบรูปธงที่พร้อมจะปรับตัวเป็นขาลงต่อและกราฟยังไม่สามารถกลับขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันได้เลยนับตั้งแต่ลงมาเกือบ 1000 จุดเป็นเวลาห้าวันติดต่อกันกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพยายามอย่างมากที่จะรักษาแรงซื้อเมื่อวันอังคารเอาไว้ให้ได้ แม้ว่าตอนนี้นักลงทุนจะหยุดซื้อพันธบัตรรัฐบาลฯ แต่พวกเขาก็ยังไม่คิดจะขายเช่นกันดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ตอนนี้กราฟได้ลงมาถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2018 โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถสร้างจุดต่ำสุดได้เมื่อไหร่ ยิ่งมีข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมายิ่งทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีกUS Dollar Index อย่างไรก็ตามจากข่าวการปรฏิเสธมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้กล่าวถึงไป อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนมองว่าตอนนี้คือโอกาสดีที่จะเข้ามาถือดอลลาร์สหรัฐในราคาถูกสินทรัพย์สำรองอันดับหนึ่งของโลกอย่างทองคำในที่สุดก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองเสียทีเมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นตัดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกลับขึ้นไปได้และกลับเข้าไปอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมที่ลากมาตั้งแต่จุดสูงสุดตลาดกาลในวันที่ 7 สิงหาคมดังเดิมGold Futures อินดิเคเตอร์ RSI ก็ได้ดีดตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดโดยเล็งไปที่เส้นเทรนด์ไลน์ขาลง ส่วนเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นในอินดิเคเตอร์ MACD ก็สามารถตัดกลับขึ้นไปได้ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค หากไม่มีปัจจัยเชิงลบมากระทบ ราคาทองคำจะสามารถขึ้นไปถึง $1900 ได้หลังจากขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ $19,892 ได้ ราชาสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ก็ปรับตัวกลับลงมาและไม่สามารถกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดดังกล่าวได้อีกทั้งๆ ที่ใกล้จะแตะ $20,000 เต็มทีแล้วBTC/USD ตอนนี้นักลงทุนของทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดทั้งนักลงทุนขาขึ้นระยะยาวและนักลงทุนขาลงระยะสั้น ยิ่งการตัดเส้นเทรนด์ไลน์ลงมายิ่งทำให้ฝั่งขาลงคิดว่าบิทคอยน์มีโอกาสปรับตัวลดลงสุดท้าย ราคาน้ำมันดิบดีดตัวกลับขึ้นมาจากการย่อตัวเป็นวันที่สามติดต่อกันท่ามกลางการประชุมอันตึงเครียดของกลุ่มโอเปกพลัสที่ยังไม่ยอมสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อรักษาส่วนรวมในสถานการณ์ที่การฟื้นตัวของตลาดน้ำมันดิบไม่ปกติเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แม้จะมีความต้องการน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย แต่ฝั่งยุโรปและอเมริกายังคงซบเซาCrude Oil WTI ถึงจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อย่างไร ราคาน้ำมันดิบก็ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบรูปธงลู่ลงอยู่ดีแม้ว่าทางเทคนิคแล้วการฟอร์มตัวรูปแบบนี้จะเอื้อต่อการขึ้นต่อของราคาก็ตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ- แถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ต่อสภาคอนเกรสเป็นวันสุดท้ายเมื่อคืนนี้- นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้จะสามารถแสดงการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่มขึ้นได้สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดลงทุนตลาดหุ้นดัชนีS&P 500 ปรับตัวลดลง 0.2%ดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปปรับตัวลดลง 0.3%ดัชนีNASDAQ 100 มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยดัชนี MSCI ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2%ตลาดสกุลเงินดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาอยู่ที่ 92.34กราฟปอนด์เทียบดอลลาร์ปรับลดลง 0.4% มีราคาอยู่ที่ $1.337กราฟดอลลาร์สหรัฐเทียบเยนปรับตัวลดลง 0.2% มีราคาอยู่ที่ 104.57กราฟดอลลาร์เทียบหยวนปรับตัวลดลง 0.1% มีราคาอยู่ที่ 6.5596ตลาดบอนด์กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน อายุ 10 ปีปรับตัวลดลงน้อยกว่า 1 จุดเบสิส มีตัวเลขอยู่ที่ -0.53%กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักร อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง 1 จุดเบสิส มีตัวเลขอยู่ที่ 0.341%กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศส อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมากกว่า 1 จุดเบสิส มีตัวเลขอยู่ที่ -0.288%กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 1 จุดเบสิส มีตัวเลขอยู่ที่ 0.026%ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.2% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $44.48 บาร์เรลราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $1,814.96 ต่อออนซ์ราคาสังกะสี LME ปรับตัวขึ้น 0.2% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $2,775 ต่อเมตริกตันราคาทองแดงปรับตัวขึ้น 2.9% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $130.96 ต่อเมตริกตัน

การเปิดเผยความเสี่ยง:การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น. ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น