ดอลลาร์ยังอ่อนมูลค่าแม้นักลงทุนยังหมุนเงินไปลงในสินทรัพย์อื่นต่อเนื่อง

ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดใหม่- ตลาดหุ้นยังคงสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สนข่าวร้ายจากโควิด- ดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อเนื่องยิ่งใกล้ถึงช่วงเวลาสิ้นปี 2020 เข้ามามากเท่าไหร่ ดูเหมือนว่านักลงทุนยิ่งกล้าเสี่ยงหมุนเงินโยกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยในขณะที่ดัชนีหลักๆ ทั้งสี่ของสหรัฐฯ สามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น? นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มที่จะหันมาสนใจมองความเป็นจริงของยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จนอาจนำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ นอกจากนี้ตลาดก็ยังหวังจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกๆ วันที่ผ่านไปโดยเชื่อว่าข่าวดีนี้จะยิ่งหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ปรับตัวสูงขึ้นได้อีกยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ทะยานขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ 228,407 รายในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดอยู่ที่ 2,879 คน ตอนนี้มีคนเข้าแอดมิดเพราะโรคโควิดในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวมากกว่า 100,000 คนแล้ว จนหมอใหญ่แอนโทนี่ เฟาซี่ต้องออกมาบอกว่าเดือนมกราคาที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายของสหรัฐฯ ในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้ซึ่งยังทำอะไรไม่ได้มากทำได้แต่เพียงเตือนประชาชนชาวอเมริกันให้ทำในรอรับหน้าหนาวที่มืดมัวที่สุดของสหรัฐอเมริกาเอาไว้ได้เลยสถานการณ์โควิดในสหรัฐฯ ตอนนี้เลวร้ายจนถึงจุดที่รัฐแคลิฟอร์เนียต้องสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้านหลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิดเยอะจนล้นความจุที่โรงพยาบาลภายในรัฐจะสามารถรับได้ มาตรการนี้ได้มีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นยังคงวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับความเป็นจริงแม้สถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใดก็ตาม ดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐฯ ได้แก่เอสแอนด์พี 500 ดาวโจนส์ แนสแด็กคอมโพสิต และรัสเซล 2000 ก็ยังสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้อย่างต่อเนื่อง นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2018 ที่ดัชนีทั้งสี่ของสหรัฐฯ สร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้พร้อมกัน ขนาดแนสแด็ก 100 ก็ยังขอมีส่วนร่วมสร้างจุดสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกันแม้จะไม่ใช่จุดสูงสุดตลอดกาลก็ตามSPX Daily กราฟของดัชนีเอสแอนด์พี 500 สามารถทะลุกรอบสามเหลี่ยมสมมาตรขึ้นไปได้สำเร็จ เมื่อนำขนาดของกรอบสามเหลี่ยมมาวิเคราะห์หาราคาเป้าหมายพบว่ามีโอกาสที่ดัชนีจะสามารถขึ้นไปถึง 3,900 ได้แม้จะค้านสายตานักลงทุนแค่ไหนก็ตาม เมื่อหันไปดูข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) พบว่าตัวเลขที่ออกมานั่นแย่มาก มีการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเพียง 245,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 469,000 ตำแหน่งมากถึง 224,000 ตำแหน่ง แม้อัตราการว่างงานจะลดลง 0.2% จาก 6.9% เหลือ 6.7% แต่ตัวเลขนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่ามีชาวอเมริกันมากกว่า 2 แสนคนตอนนี้ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดแรงงานอีกต่อไปหากจะกล่าวว่าตอนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วิ่งอยู่ด้วยความหวังเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่ผิดนัก แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าลึกๆ มาตรการเศรษฐกิจหรือวัคซีนต้านโควิด-19 ที่รอกันอยู่นั้นกว่าจะได้เห็นโฉมหน้ากันจริงๆ ก็อาจจะต้องรอไปถึงปีหน้า และถึงแม้ว่าจะออกมาทันภายในเดือนนี้จริง ข่าวดีนั้นก็เพียงพอที่จะพาราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อไป แม้โจ ไบเดนจะออกมาเร่งสภาคอนเกรสโดยใช้คำพูดว่า “เราไม่อาจเอ้อระเหยไปได้มากกว่านี้แล้ว” แต่จนถึงปัจจุบันก็ดูเหมือนว่าสภาสูงของรีพับลิกันก็ยังไม่เห็นแก่ส่วนรวมจนถึงตอนนี้แต่หากจะมองอีกด้าน ยิ่งยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิดสูงขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ยิ่งมีมากขึ้น นั่นยิ่งทำให้พวกเขาอยากนำเงินเข้าไปลงทุนในตลาดและเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยภาพรวมปรับตัวขึ้นในปัจจุบันอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้ในขนาดที่ตลาดหุ้นกำลังได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น คนก็ยิ่งเทการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี UST 10Y Daily ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแย่ส่งผลให้นักลงทุนคิดว่าเงินเฟ้อคงขึ้นไม่ถึงเป้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตั้งไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมใจกันเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมา อย่างไรก็ตามจากกราฟจะเห็นว่ากราฟผลตอบแทนฯ ยังมีตัวเลขอยู่ที่ 0.973 และยังคงวิ่งอยู่ในกรอบราคาขาขึ้นดอลลาร์สหรัฐ ยังคงถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง นี่คือขาลงสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกันของกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ถ้ายิ่งข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเมื่อไหร่ เชื่อได้เลยว่าได้เห็นดอลลาร์ไหลลงเป็นน้ำอย่างแน่นอนDXY Weekly หากนับจากเฉพาะขาลงตั้งแต่รูปแบบหัวไหล่ล่าสุด จะเห็นว่าตอนนี้กราฟได้ลงมาสามสัปดาห์ติดต่อกันแล้ว เส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ตอนนี้ได้ตัดเส้น 100 สัปดาห์ลงมาแล้ว และกำลังจะตัดเส้น 200 สัปดาห์เป็นเส้นถัดไปเมื่อดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายขนาดนี้ มีหรือทองคำ จะพลาดโอกาสขาขึ้นGold Daily ความน่าสนใจของทองคำตอนนี้อยู่ที่ราคาสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือ $1800 และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้อีกครั้ง หมายความว่ามีโอกาสที่เราจะได้กลับไปเห็นทองคำที่ $1,900 เร็วๆ นี้นับตั้งแต่การขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้ ล่าสุดราชาสกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์ ก็เจอกับความผันผวนอีกครั้ง นักวิเคราะห์แตกเป็นหลายฝ่าย ผู้ที่หันมาศรัทธาในบิทคอยน์ก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกันกับผู้ที่เกลียด บลูเบิร์กมีรายงานว่าบิตคอยน์อาจขึ้นถึง $50,000 ได้ภายในปีใหม่นี้ (ฟังหูไว้หู) ในขณะที่ผู้เชียวชาญจากโรงเรียนธุรกิจ NYU Stern เชื่อว่าที่ยอดดอยของบิทคอยน์ตอนนี้ไม่ได้มีใครอยู่นอกจากบรรดานักเก็งกำไร และราคาที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็ถูกปั่นขึ้นมาจากกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นBTC/USD Daily หลังจากที่กราฟบิตคอยน์เทียบดอลลาร์สหรัฐสามารถขึ้นไปชนราคาเป้าหมายได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้อินดิเคเตอร์อย่าง MACD และ RSI กำลังส่งสัญญาณขาลงทั้งคู่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 1.4% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สร้างขาขึ้นสามสัปดาห์ติดต่อกัน คิดเป็นขาขึ้นรวมแล้วทั้งสิ้น 3.8% หลังจากทราบผลการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสที่สุดท้ายยอมเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมปี 2021Oil Daily จากรูป การที่กราฟราคาน้ำมันดิบสามารถหลุดกรอบธงลู่ลงขึ้นมาได้ แสดงให้เห็นว่าขาขึ้นของน้ำมันยังมีแรงส่งที่ดีและสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ข่าวและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EST)วันอาทิตย์22:00 (ประเทศจีน) - รายงานตัวเลขดุลบัญชีการค้าที่คำนวณเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ: คาดว่าจะมีตัวเลขในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 53.50B เทียบกับ 58.44B ในเดือนตุลาคมวันจันทร์10:00 (แคนาดา) - ดัชนี PMI จาก IVEY: คาดว่าจะลดลงจาก 54.5 เป็น 51.518:50 (ประเทศจีน) - รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าแบบ QoQ จะเพิ่มขึ้นจาก -7.9% เป็น 5.0%วันอังคาร05:00 (เยอรมัน) รายงานตัวเลขบรรยากาศทางธุรกิจโดย ZEW: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 39.0 เป็น 46.007:00 (สหรัฐฯ) รายงานภาพรวมตลาดพลังงานระยะสั้นจาก EIAวันพุธ10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนงานเปิดใหม่จาก JOLT: คาดว่าตัวเลขในเดือนพฤศจิกายนจะออกมาที่ 6.436M10:00 (แคนาดา) รายงานผลตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดา (BoC): คาดว่าจะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 0.25%10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง: คาดว่าจะลดลงจาก -0.679 ล้านบาร์เรลครั้งก่อนเป็น -2.358 ล้านบาร์เรลวันพฤหัสบดี02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าแบบ MoM จะลดลงจาก 1.1% ครั้งก่อนเป็น 0.5%02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 0.2%07:45 (ยูโรโซน) รายงานผลตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB): คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 0.00%08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน: คาดว่าจะลดลงจาก 0.2% เป็น 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน08:30 (สหรัฐฯ) รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 712,000 คนเป็น 725,000 คนวันศุกร์08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาผู้ผลิต: คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจาก 0.3% เหลือ 0.2%

การเปิดเผยความเสี่ยง:การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น. ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น