[BREAKING] 1 Bitcoin = 7 แสนบาทแล้ว

[BREAKING] 1 Bitcoin = 7 แสนบาทแล้ว !หลังราคา Bitcoin ดีดทะลุ 23,600 เหรียญคืนนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ! หลังจากทะลุ All Time High อีกครั้งเมื่อคืนราคา Bitcoin ก็ยังมีแรงซื้อทางเทคนิคไหลเข้ามาเรื่อยๆ อย่างที่เราได้เตือนไปเมื่อวานในขณะที่กองทุนสถาบันในต่างประเทศบางรายยังคงใช้กลยุทธ์เข้าซื้อ Bitcoin เก็บเป็นสินทรัพย์สำรองแทนทองกันอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆทำให้วันนี้อยากลองมาตอบคำถามที่ว่า "Bitcoin จะมาแทนที่ทองคำได้จริงๆหรือ ?"เนื่องจากทั้งทองคำและ Bitcoin ต่างเป็นสินทรัพย์ที่เรียกว่า "Veblen Goods" หรือสินค้าที่ราคาจะกำหนดด้วยปริมาณความต้องการซื้อสินค้า (Demand) และส่วนมาก Veblen Goods จะเป็นสินค้าที่ หามาทดแทนกันไม่ได้ หรือมีอุปทานจำนวนจำกัด (ซึ่ง Bitcoin เป็นเช่นนั้น)ทำให้เมื่อราคาจะเพิ่มขึ้นความต้องการซื้อสินค้าก็จะเพิ่มตามไปด้วย ! ตรงข้ามกับหลักเศรษฐศาสตร์ที่ความต้องการซื้ออาจลดลงเมื่อสินค้าราคาแพงขึ้นการเป็น Veblen Goods ทำให้ยากที่จะหามูลค่าที่แท้จริงในอนาคตของทั้งคู่ได้ราคาที่เรามองอยู่คือมูลค่าในปัจจุบันที่มีคนในตลาดพร้อมที่จะซื้อหรือขาย แต่เราไม่รู้เลยว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นเพียงเพราะผลกระทบลูกโซ่จากราคาที่แพงขึ้นหรือไม่ ?เพราะฉะนั้นราคาทองที่ 27,000 บาทต่อบาท กับราคา Bitcoin ที่ 700,000 บาทต่อหนึ่งเหรียญในวันนี้ ที่โดนกำหนดโดยความต้องการของคนที่จะซื้อขายกันในวันนี้ จึงไม่ได้บอกมูลค่าที่แท้จริง ราคาในวันนี้อาจจะกำลังถูกมากๆ หรือแพงไปมากๆ ก็เป็นได้ทั้งคู่แต่ถึงแม้ทั้ง Bitcoin และทองคำจะเป็น Veblen Goods แต่ก็มีความแตกต่างกันในบทบาทกันอยู่มากราคาทองคำมีความสัมพันธ์ที่แน่นอนกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ธนาคารกลางทั่วโลกพยายามเก็บทองคำไว้เป็นเงินสำรองในขณะที่วันนี้นั้นราคา Bitcoin ยังไม่มีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ใดๆเลยซะทีเดียว เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าการที่หลายกองทุนกำลังเปลี่ยนมาถือ Bitcoin แทนที่ทองคำเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เพื่อสู้กับค่าเงินเฟ้อ (Inflation Hedge) จึงยังเป็นเพียงมุมมองของคนกลุ่มเดียวเท่านั้น ซึ่งอาจจะถูกต้อง หรืออาจจะผิดก็เป็นไปได้ตอนนี้ยังดูเป็นไปได้ยากอยู่ ที่อยู่ดีๆทุกประเทศทั่วโลกจะหันมาถือ Bitcoin เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศแทนทองคำในช่วงข้ามคืนนี้แต่เราก็ไม่ควรละสายตาไปจากการที่ผู้ให้บริการจ่ายเงินระดับโลกอย่าง Apple (NASDAQ:AAPL ) หรือ Paypal เริ่มยอมรับการใช้ Bitcoin บน Platform กันมากขึ้น หากวันไหนการใช้ Bitcoin เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆฺBitcoin ก็อาจจะมาแทนที่ทองคำก็เป็นได้ แต่คงยังไม่ใช่ในวันนี้นักลงทุนควรทำอย่างไรกับการลงทุนใน Bitcoin ? พวกเราทุกคนควรมี Bitcoin เก็บไว้ติดตัวหรือไม่ ?ตอนนี้หากคุณทุ่มเก็บ Bitcoin เต็มตัว บอกตรงๆเลยว่ามันคงเรียกว่าการ เดิมพัน มากกว่า #การลงทุน โดยเฉพาะหากคุณคิดที่จะขายทองหมดพอร์ตเพื่อไปถือทอง (เหมือนกับที่ผู้จัดการกองทุนหลายคนกำลังทำอยู่)ขอยกตัวอย่างเทียบกับตลาดหุ้นดูละกัน หากวันนี้คุณกำลังถือหุ้น Apple และ Google (NASDAQ:GOOGL ) อยู่ เพราะคุณทราบดีถึงศักยภาพของบริษัททั้งสอง และวันนี้กำลังมีบริษัท Start Up ไฟแรงขึ้นมาทำธุรกิจแข่งกับทาง Apple และ Google และดูเหมือนว่าบริษัทน้องใหม่นี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียวคุณจะขายหุ้น Apple และ Google ทิ้งไปหมดเพื่อที่ไปถือหุ้นของบริษัท Start Up นี้ไหม ?หากคุณทำเช่นนั้น ก็คือคุณกำลังเดิมพันกับบริษัทเล็กๆนั้นอยู่ ซึ่งคุณอาจจะถูกก็ได้นะถ้าวันนี้บริษัทนี้จะโตขึ้นมา Disrupte ทาง Apple และ Google ทำให้การเก็งกำไรไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่ในฐานะนักลงทุน การทำเช่นนั้นคงเสี่ยงไปสำหรับหลายท่าน ถึงแม้เราไม่ควรไม่สนใจคู่แข่ง แต่เราไม่ควรกระโดดเปลี่ยนม้าไปทีเดียวทั้งตัว เราควรค่อยๆทยอยกระจายความเสี่ยงเราออกไปเรื่อยๆลองซื้อหุ้นลงทุนไปกับบริษัท Start Up ไปทีละน้อย และคอยดูผลงานและพฤติกรรมของบริษัทนี้ไปเรื่อยๆ หากว่าวันไหนบริษัทนี้มีผลงานที่ดีขึ้นก็ค่อยๆเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเข้าไปตามนั้นระหว่างทองคำกับ Bitcoin ก็เช่นเดียวกันวันนี้ทองคำกำลังทำหน้าที่ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต่อค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าลง และกำลังสู้กับค่าเงินเฟ้อได้ดี ทำไมเราถึงจะต้องเทขายออกไปหมดในเวลานี้ ? ลองค่อยๆกระจายความเสี่ยงไปลงใน Bitcoin ดูก่อน แต่อย่าละเลยมันไปทีเดียวและเมื่อไหร่ที่การใช้ Bitcoin เริ่มกว้างขวางขึ้น เริ่มมีศักยภาพและเสถียรภาพมากขึ้น เราก็ค่อยเพิ่มการลงทุนเข้าไป แบบนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็น การลงทุน มากกว่าการเก็งกำไรติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKPบทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP

การเปิดเผยความเสี่ยง:การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น. ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น